ภาพกิจกรรม
กิจกรรม 50 นาทีทอง ประจำวันอังคาร กิจกรรมการไหว้ในโอกาสต่างๆ
โรงเรียนท่าฉางวิทยาคาร นำโดยท่านผู้อำนวยการอมรรัตน์ โสธารัตน์ คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกท่าน ได้เห็นความสำคัญของการเรียนควบคู่กับการทำกิจกรรมของนักเรียน เพื่อเพิ่มทักษะชีวิตให้แก่นักเรียนโรงเรียนท่าฉางวิทยาคารทุกคน จึงจัดกิจกรรม 50 นาทีทองขึ้นใน 50 นาทีสุดท้ายก่อนเลิกเรียนในทุกวันจันทร์-ศุกร์
สำหรับกิจกรรมประจำวันอังคารที่ 22 พฤษภาคม 2561 ขอเสนอการไหว้ในโอกาสต่างๆ ทั้งนี้เพื่อให้นักเรียนโรงเรียนท่าฉางวิทยาคารทุกคนได้เรียนรู้การไหว้  โดย

การไหว้  คือ  อริยาบถที่มือทั้งสองข้างประนมนิ้วชิดกัน  ปลายนิ้วจดกันไม่เอาปลายนิ้วออกจากกัน  การไหว้มีหลายแบบ คือ
   
1. การไหว้พระสงฆ์
เมื่อพนมมือแล้ว  ให้ยกมือที่พนมขึ้นจรดหน้าผาก  ให้ปลายหัวแม่มือจรดระหว่างคิ้วค้อมศีรษะ ลงให้ปลายนิ้วจรดต้นผม  แนบมือให้ชิดหน้าผาก  ค้อมตัวให้มาก  ผู้ชายให้ยืนส้นเท้าชิด ปลายเท้าแยกเล็กน้อย   ผู้หญิงให้ก้าวขาขวาออกไปข้างหน้าเล็กน้อยแล้วย่อตัวไหว้
   
2. การไหว้บิดามารดา ครูอาจารย์และญาติผู้ใหญ่4 
ให้พนมมือยกขึ้นจนนิ้วหัวแม่มือจรดปลายจมูก ปลายนิ้วชี้จรดระหว่างคิ้ว  ผู้ชายค้อมตัวลงเล็กน้อย ผู้หญิงก้าวขาขวาไปข้างหน้าเล็กน้อย แล้วย่อตัวลงแต่พองาม
   
3. การไหว้ผู้ที่เคารพนับถือทั่วไป 
ให้พนมมือเอาปลายนิ้วแม่มือจรดปลายคาง นิ้วชี้จรดปลายจมูกก้มหน้าเล็กน้อยพองาม
   
4. การรับไหว้
ให้พนมมือยกขึ้นมาอยู่ที่ระดับอก   ปลายนิ้วอยู่ระหว่างปลายคางก้มหน้าเล็กน้อย
 
 
การประนมมือ (อัญชลี)
 
นิยมใช้แสดงความเคารพพระรัตนตรัย ในเวลาฟังพระเจริญพระพุทธมนต์ สวดพระอภิธรรม ฟังพระธรรมเทศนา  เป็นต้น
 
วิธีการประนมมือ                     
ยกมือทั้งสองขึ้นประกบกัน ตั้ง เป็นกระพุ่มมือ ประนมไว้ระหว่างอก ให้ปลายมือตั้งขึ้น ข้างบนนิ้วมือ
         
ทั้งสองข้าง ทุกนิ้วแนบชิดสนิทกัน อย่าให้เหลื่อมล้ำกัน อย่าให้กางห่างออกจากกัน ข้อศอกทั้งสองแนบชิดชายโครง การประนมมือนี้เป็นกิริยาอาการที่แสดงความเคารพพระรัตนตรัย จึงนิยมทำด้วยความเรียบร้อย ตั้งใจไม่นิยมปล่อยให้นิ้วมืองอหงิก นิยมตั้งกระพุ่มไว้ระหว่างอกเอียงกับลำตัวประมาณ ๔๕ องศา ไม่ยกให้สูงจรดคางหรือจรดปาก ไม่ปล่อยปลายมือให้ตกต่ำลงมาวางอยู่ที่ท้องหรือวางไว้ที่หน้าตักหรือหัวเข่า
 
 
การไหว้พระรัตนตรัย    
นิยมแสดงความเคารพพระรัตนตรัยด้วยการไหว้เมื่อนั่งเก้าอี้หรือยืนอยู่ มีวิธีการทำดังนี้คือ
1. ประนมมือไว้ระหว่างอก
2. ยกมือประนมขึ้นพร้อมกับก้มศรีษะลงเล็กน้อย ให้นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ระหว่างคิ้ว ให้ปลายนิ้วชี้
จรดหน้าผาก ทำเพียงครั้งเดียว แล้วลดมือลงตามเดิม
 
 
การไหว้บุคคล
การไหว้ซึ่งกันและกันนั้นนิยมปฏิบัติเพื่อความ
          เหมาะสมแก่ชั้นและวัยของบุคคลนั้น ๆ
          มี ๓ แบบ คือ
          1. การไหว้บุคคลผู้มีอายุมากกว่า (เป็นผู้ใหญ่มากกว่า)
          2. การไหว้บุคคลผู้มีอายุเสมอกัน
          3. การไหว้บุคคลผู้มีอายุน้อยกว่า
 
1. การไหว้บุคคลที่มีอายุมากกว่า
สำหรับผู้น้อยปฏิบัติต่อผู้ใหญ่ โดย
              ถือหลักมีชาติกำเนิดสูงกว่า มีคุณ
              ธรรมความดีได้รับยกย่องให้เป็นผู้
              ปกครอง บังคับบัญชา และมีอายุ
              แก่กว่าตน
 
การไหว้นิยมยกกระพุ่มมือขึ้นไหว้ให้ปลายนิ้วชี้อยู่ระหว่างคิ้วนิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่บนดั้งจมูกพร้อม
กับก้มศรีษะน้อมตัวลงพองาม สายตามองดูท่านด้วยความเคารพอ่อนน้อมถ่อมตน
 
2. การไหว้บุคคลผู้มีอาวุโสเสมอกัน
นิยมยกมือกระพุ่มขึ้นไหว้ ให้ปลายนิ้ชี้อยู่ที่ดั้งจมูก นิ้วหัวแม่มือทั้งสองอยู่ที่คางก้มศรีษะ
เล็กน้อยสายตามองกันและกันด้วยความหวังดีปราถนาดีต่อกัน
 
3.  การรับไหว้บุคคลผู้มีอาวุโสน้อยกว่า
สำหรับผู้ใหญ่รับไหว้ผู้น้อย นิยมยกกระพุ่ม มือขึ้นประนมอยู่ระหว่างอกหรือที่หน้าให้ปลาย
นิ้วชี้อยู่ที่ตั้งจมูกปลายนิ้วอยู่ที่ดั้งจมูกปลายนิ้วหัวแม่ มืออยู่ที่คางสายตามองดูผู้ไหว้ ด้วย
ความปราถนาดี
 
การกราบ
การกราบ (อภิวาท) เป็นการแสดงความเคารพด้วย วิธีนั่งประนมมือขึ้นเสมอหน้าผากแล้วน้อมศีรษะ ลงจรดพื้นหรือจรดมือ ณ ที่ใดที่หนึ่ง แล้วน้อมศีรษะลงบนมือนั้น เช่น กราบลงบน ตักก็อนุโลมถือว่าเป็นกราบ ถ้าหมอบแล้วน้อม ศีรษะจรดมือที่ประนมถึงพื้นเรียกว่า หมอบกราบ การกราบมี 2 ลักษณะ คือ การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ และการกราบผู้ใหญ่


3.1 การกราบแบญ จางคประดิษฐ์ ใช้กราบพระรัตนตรัย ได้แก่ พระพุทธ พระ ธรรม พระสงฆ์ การกราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ หมายถึง การ ที่ให้อวัยวะทั้ง 5 คือ เข่าทั้ง 2 มือทั้ง 2 และหน้าผากจรดพื้น การกราบจะมี 3 จังหวะ และจะต้องนั่งอยู่ในท่าเตรียมกราบ
 
ท่าเตรียมกราบ

ชาย นั่งคุกเข่าปลายเท้าตั้ง นั่ง บนส้นเท้า มือทั้งสองวางบนหน้าขาทั้ง สองข้าง (ท่าเทพบุตร)
หญิง นั่งคุกเข่าปลาย เท้าราบ นั่งบนส้นเท้า มือทั้งสองวางบน หน้าขาทั้งสองข้าง (ท่าเทพธิดา)


จังหวะ ที่ 1 (อัญชลี) ยกมือขึ้นประนมระหว่างอก ปลายนิ้วชิดกันตั้งขึ้นแนบตัวไม่กางศอก
จังหวะที่ 2 (วันนา) ยกมือขึ้น พร้อมกับก้มศีรษะ โดยให้ปลายนิ้วชี้จรดหน้า ผาก
จังหวะที่ 3 (อภิวาท) ทอดมือลง กราบ ให้มือและแขนทั้งสองข้างลงพร้อมกัน มือคว่ำห่างกันเล็กน้อยพอให้หน้าผากจรด พื้นระหว่างมือได้
ชาย ให้กางศอกทั้งสอง ข้างลง ต่อจากเข่าขนานไปกับพื้น หลังไม่ โก่ง

หญิง ให้ศอกทั้งสองข้างคร่อมเข่าเล็ก น้อย
ทำสามจังหวะให้ครบสามครั้ง แล้วยก มือขึ้นจบโดยให้ปลายนิ้วชี้จรดหน้าผาก แล้วปล่อยมือลง การกราบไม่ควรให้ช้าหรือ เร็วเกินไป

ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจากสำนักข่าวเจ้าพระยา
โพสเมื่อ : 22 พ.ค. 2561,22:03   อ่าน 5582 ครั้ง